ไม้ปูพื้นภายนอก VS ไม้ปูพื้นภายใน แตกต่างกันอย่างไร?

เลือกไม้ปูพื้นให้ถูกที่ เพิ่มความสวยงามและทนทานให้บ้านคุณ

ไม้ปูพื้นภายนอก ไม้ปูพื้นภายใน เปรียบเทียบไม้ปูพื้น การเลือกไม้ปูพื้น

ไม้ปูพื้น เป็นวัสดุยอดนิยมในการตกแต่งบ้านที่ช่วยเสริมความอบอุ่น สวยงาม และหรูหราให้กับพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกบ้าน แต่ไม้ปูพื้นแต่ละประเภทไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานเหมือนกันทั้งหมด การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและฟังก์ชันจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับความแตกต่างระหว่าง ไม้ปูพื้นภายนอก และ ไม้ปูพื้นภายใน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น


ความแตกต่างหลักระหว่างไม้ปูพื้นภายนอกและไม้ปูพื้นภายใน


การเลือกไม้ปูพื้นให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งานเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดอายุการใช้งานและความสวยงามของพื้นไม้ในระยะยาว ไม้ปูพื้นภายนอกและไม้ปูพื้นภายในมีความแตกต่างกันหลายประการทั้งในแง่ของวัสดุ คุณสมบัติ การติดตั้ง และการดูแลรักษา บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับความแตกต่างที่สำคัญระหว่างไม้ปูพื้นทั้งสองประเภท เพื่อให้คุณสามารถเลือกไม้ปูพื้นได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการ


วัสดุและคุณสมบัติของไม้ปูพื้นภายนอก


ไม้ปูพื้นภายนอกถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมภายนอกอาคาร จึงมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างจากไม้ปูพื้นภายใน


ประเภทของไม้ที่นิยมใช้สำหรับพื้นภายนอก

  • ไม้สัก - เป็นไม้ที่มีความทนทานสูง มีน้ำมันในตัว ช่วยป้องกันปลวกและแมลงได้ดี แต่มีราคาค่อนข้างสูง
  • ไม้เต็ง - มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพอากาศดี เหมาะสำหรับพื้นที่ภายนอกที่ต้องรับน้ำหนักมาก
  • ไม้แดง - มีความทนทานต่อสภาพอากาศและแมลงได้ดี สีสวยแต่อาจซีดจางเมื่อถูกแสงแดดเป็นเวลานาน
  • ไม้รังสังเคราะห์ (WPC) - ผลิตจากส่วนผสมของไม้และพลาสติก มีความทนทานสูง ไม่ผุพัง ดูแลรักษาง่าย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

คุณสมบัติเด่นของไม้ปูพื้นภายนอก

  • ทนต่อความชื้นและน้ำ - ไม้ปูพื้นภายนอกมักผ่านกระบวนการอบหรือเคลือบสารป้องกันความชื้น ทำให้ทนต่อฝนและความชื้นได้ดี
  • ทนต่อรังสี UV - ถูกออกแบบให้ทนต่อแสงแดดและรังสี UV ซึ่งช่วยลดการซีดจางของสีและการแตกร้าว
  • ทนต่อเชื้อรา แมลง และปลวก - มักผ่านการอาบน้ำยาหรือใช้ไม้ที่มีคุณสมบัติต้านทานเชื้อราและแมลงโดยธรรมชาติ
  • พื้นผิวมีลักษณะพิเศษ - มักมีร่องหรือลายเพื่อป้องกันการลื่น เหมาะกับพื้นที่เปียกชื้น

 

วัสดุและคุณสมบัติของไม้ปูพื้นภายใน

ไม้ปูพื้นภายในเน้นความสวยงามและความสบายในการใช้งาน เนื่องจากไม่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศรุนแรง


ประเภทของไม้ที่นิยมใช้สำหรับพื้นภายใน

  • ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้โอ๊ค ไม้มะค่า ไม้ประดู่ - ให้ความแข็งแรง ทนทาน และความสวยงามสูง
  • ไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้สน - มีน้ำหนักเบา ราคาไม่แพง แต่ความทนทานน้อยกว่าไม้เนื้อแข็ง
  • ลามิเนต - เป็นไม้ประกอบที่มีราคาประหยัด ติดตั้งง่าย มีให้เลือกหลากหลายลายและสี
  • ไม้วีเนียร์ - ไม้บาง ๆ ที่ปิดทับบนวัสดุรองพื้น ให้ความรู้สึกเหมือนไม้จริงในราคาที่ถูกกว่า

คุณสมบัติเด่นของไม้ปูพื้นภายใน

  • ความสวยงามและความประณีต - เน้นลวดลายไม้และสีสันที่สวยงาม มีการขัดเงาและเคลือบผิวให้มีความเงางาม
  • ความนุ่มและการดูดซับเสียง - ให้ความรู้สึกนุ่มเท้าและช่วยลดเสียงก้อง ทำให้บรรยากาศในบ้านเงียบสงบมากขึ้น
  • การเก็บและคายความร้อน - ไม้ปูพื้นภายในมีคุณสมบัติในการเก็บและคายความร้อนได้ดี ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในบ้าน
  • ไม่เน้นความทนทานต่อสภาพภูมิอากาศ - ไม่จำเป็นต้องทนต่อฝน แดด หรือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิรุนแรง จึงไม่ต้องผ่านการอาบน้ำยาพิเศษมากนัก

การติดตั้งไม้ปูพื้นภายนอกและภายใน

การติดตั้งไม้ปูพื้นทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกันในรายละเอียด ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของพื้นไม้


การติดตั้งไม้ปูพื้นภายนอก

  • ต้องเว้นระยะห่าง - ต้องเว้นระยะห่างระหว่างแผ่นไม้เพื่อรองรับการขยายตัวเมื่อโดนความชื้นและความร้อน
  • ระบบระบายน้ำ - ต้องออกแบบให้มีระบบระบายน้ำที่ดี ไม่ให้น้ำขังบนพื้นไม้
  • โครงสร้างพื้นฐาน - ต้องมีโครงสร้างรองรับที่แข็งแรงและมั่นคง มักใช้คานไม้หรือโลหะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน
  • การยึดติด - ใช้น็อตหรือตะปูที่ทนต่อสนิมเพื่อยึดไม้กับโครงสร้าง

การติดตั้งไม้ปูพื้นภายใน

  • ไม่ต้องเว้นระยะห่างมาก - เว้นระยะห่างระหว่างแผ่นไม้น้อยกว่าเพราะการเปลี่ยนแปลงขนาดจากความชื้นหรืออุณหภูมิมีน้อยกว่า
  • การเตรียมพื้น - ต้องปรับระดับพื้นให้เรียบและแห้งสนิทก่อนติดตั้ง
  • วิธีการยึดติด - มีหลายวิธี เช่น การตอกตะปู การใช้กาวติด หรือระบบล็อกสำเร็จรูป (Click System)
  • การเคลือบผิว - หลังติดตั้งมักมีการขัดและเคลือบผิวเพื่อความสวยงามและป้องกันรอยขีดข่วน

การดูแลรักษาไม้ปูพื้น

การดูแลรักษาที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานของไม้ปูพื้นทั้งสองประเภท แต่มีข้อแตกต่างดังนี้

การดูแลไม้ปูพื้นภายนอก

  1. ทำความสะอาดสม่ำเสมอ - กวาดเศษใบไม้และสิ่งสกปรกออกเป็นประจำ ล้างด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสำหรับไม้ภายนอก
  2. การเคลือบผิวใหม่ - ควรเคลือบน้ำมันหรือสารป้องกันทุก 1-2 ปี เพื่อปกป้องจากน้ำและรังสี UV
  3. การตรวจสอบความเสียหาย - หมั่นตรวจสอบรอยแตกร้าว ผุพัง หรือการงอตัวของไม้ และซ่อมแซมทันที
  4. ระวังเชื้อรา - หากพบเชื้อรา ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อราโดยเร็ว

การดูแลไม้ปูพื้นภายใน

  1. ทำความสะอาดเบา ๆ - ใช้ไม้กวาดอ่อนหรือเครื่องดูดฝุ่น ไม่ควรใช้น้ำมากเกินไป เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าหมาด ๆ
  2. หลีกเลี่ยงรอยขีดข่วน - ใช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ และระวังไม่ให้วัตถุมีคมตกกระทบพื้น
  3. ควบคุมความชื้น - รักษาระดับความชื้นในห้องให้เหมาะสม ไม่แห้งหรือชื้นเกินไป
  4. ขัดและเคลือบใหม่ - ไม้ปูพื้นภายในจำเป็นต้องขัดและเคลือบใหม่ทุก 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน

ข้อควรพิจารณาในการเลือกไม้ปูพื้น

สำหรับพื้นที่ภายนอก

  • สภาพอากาศในพื้นที่ - หากอยู่ในเขตที่มีฝนตกชุกหรือแดดจัด ควรเลือกไม้ที่ทนทานต่อสภาพนั้น ๆ เป็นพิเศษ
  • การใช้งาน - พื้นที่รอบสระว่ายน้ำต้องการไม้ที่ไม่ลื่นและทนน้ำได้ดี ขณะที่พื้นระเบียงอาจเน้นความสวยงามมากกว่า
  • งบประมาณระยะยาว - แม้ไม้ภายนอกคุณภาพดีจะมีราคาแพง แต่อาจประหยัดค่าซ่อมแซมในระยะยาว
  • ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม - พิจารณาเลือกไม้ที่ได้รับการรับรองหรือไม้สังเคราะห์ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล


สำหรับพื้นที่ภายใน


  • สไตล์การตกแต่ง - เลือกสีและลวดลายของไม้ให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งภายในบ้าน
  • การใช้งานของห้อง - ห้องที่มีการสัญจรมาก เช่น ห้องนั่งเล่น ควรเลือกไม้ที่ทนต่อการขีดข่วนได้ดี
  • ความสะดวกในการดูแลรักษา - หากไม่มีเวลาดูแลมาก อาจเลือกลามิเนตหรือไม้สังเคราะห์ที่ดูแลง่าย
  • สมาชิกในบ้าน - หากมีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง อาจเลือกไม้ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนและง่ายต่อการทำความสะอาด

 

เลือกไม้ปูพื้นให้เหมาะกับการใช้งาน

ไม้ปูพื้นภายนอกและไม้ปูพื้นภายในมีความแตกต่างกันอย่างมากในแง่ของวัสดุ คุณสมบัติ การติดตั้ง และการดูแลรักษา การเลือกไม้ปูพื้นให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งานจะช่วยให้คุณได้พื้นไม้ที่สวยงาม ทนทาน และคุ้มค่าในระยะยาว


หากต้องการไม้ปูพื้นภายนอก ให้เลือกไม้ที่ทนทานต่อสภาพอากาศ ความชื้น และแสงแดด ขณะที่ไม้ปูพื้นภายในควรเน้นความสวยงาม ความนุ่มสบาย และการดูดซับเสียง นอกจากนี้ ยังควรคำนึงถึงงบประมาณ การดูแลรักษาในระยะยาว และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย


การเลือกไม้ปูพื้นที่เหมาะสมและการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะทำให้พื้นไม้ของคุณมีอายุการใช้งานยาวนานและยังคงความสวยงามตลอดไป ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านไม้ปูพื้นเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของคุณ


สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
บริษัท สยาม วู๊ดอัพ จำกัด
69/291 หมู่ 6 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
Tel : 02-001-9254, 095-714-4641, 085-514-4641  (โรงงาน)
email  fb line