ความแตกต่างของไม้เนื้อแข็งกับไม้เนื้ออ่อน ที่ส่งผลกับการใช้งาน

รู้หรือไม่ลักษณะของไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อนนั้นต่างกันอย่างไร

ไม้เนื้อแข็ง

ปัจจุบันนี้มีวัสดุที่เป็นทางเลือกสำหรับใช้ในการก่อสร้างและตกแต่งบ้านอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปูนซีเมนต์ อิฐ กระเบื้อง และหินอ่อน เป็นต้น แต่ไม้ก็ยังคงเป็นวัสดุที่ไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไป ผู้คนก็ยังคงเลือกใช้ไม้มาเป็นวัสดุส่วนนึงในการสร้างบ้านหรือใช้ตกแต่งบ้านอยู่ดี หลายคนคงทราบอยู่แล้วว่าไม้เป็นวัสดุที่คนไทยนำมาสร้างบ้านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่คุณรู้ไม่ว่าไม้ที่ใช้ในการสร้างและตกแต่งบ้านนั้นมีหลายประเภท ซึ่งนอกจากลักษณะของไม้จะต่างกัน คุณสมบัติ และการนำไปใช้งานก็ต่างกัน อาทิเช่น ไม้เนื้อแข็ง ไม้เนื้ออ่อน ไม้สัก ไม้แดง ไม้เต็ง เป็นต้น

 

สำหรับบทความนี้มาลองดูกันว่าไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อนนั้นต่างกันอย่างไร รวมถึงมีลักษณะและการนำไปใช้งานอย่างไรบ้าง

  1. ไม้เนื้ออ่อน
    วงปีจะกว้างเนื่องจากเป็นไม้ที่มีระยะเวลาในการเจริญเติบที่รวดเร็ว ลายไม้จึงน้อยและไม่ละเอียด ลักษณะของเนื้อไม้จะมีสีซีด จนถึงสีเข้ม มีน้ำหนักเบา ไม่ค่อยมีความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้น้อย จึงไม่เหมาะกับงานโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนัก รวมถึงงานภายนอกที่ต้องเจอแดด เจอฝน เจอลม แต่เนื้อไม้ค่อนข้างที่จะเหนียว สามารถเลื่อยหรือตกแต่งได้ง่าย จึงนิยมนำไม้เนื้ออ่อนมาใช้สำหรับการทำเฟอร์นิเจอร์ หรือส่วนโครงสร้างที่ไม่ได้รับน้ำหนัก ซึ่งไม้เนื้ออ่อนก็มีหลายชนิดด้วยกัน ดังนี้

  2. ไม้ยางพารา
    เป็นไม้เนื้ออ่อนที่มีการพัฒนาปรับปรุงด้วยการอัดน้ำยากันปลวกและอบแห้ง จึงทำให้มีความคงทนและแข็งแรง สามารถหาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพง รวมถึงมีสีที่อ่อนจึงสามารถนำไปทำสีได้ง่าย นิยมนำมาเป็นเฟอร์นิเจอร์

  3. ไม้จำปา
    เป็นไม้เนื้ออ่อนที่เนื้อไม้ละเอียด เสี้ยนน้อย สีน้ำตาลอ่อน แต่ไม่สามารถคงทนต่อความชื้นได้ จึงทำให้นิยมใช้ในส่วนของงานภายในอาคาร เช่น ประตู เป็นต้น

  4. ไม้มะม่วง
    ทุเรียน ขนุน เป็นไม้เนื้ออ่อนที่หาได้ง่ายและมีราคาที่ถูก แต่จะต้องเป็นไม้ที่อัดน้ำยากันปลวกและอบให้แห้ง จึงจะสามารถนำมาใช้งานได้ ด้วยความเป็นไม้เนื้ออ่อน ที่สามารถตัด ไส และตกแต่งได้ง่าย เลยนิยมนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวหรือของประดับบ้าน

  5. ไม้เนื้อแข็ง
    เป็นไม้ที่ต้องมีอายุมากจึงจะนำมาใช้งาน ด้วยระยะเวลาการเติบโตที่ช้า ทำให้มีวงปีมาก โดยส่วนใหญ่จะมีสีเข้ม เนื้อไม้จะมีความเหนียวและคงทน แข็งแรง สามารถนำมาใช้กับงานภายนอกที่ตากแดด และโดนฝนได้ ซึ่งเมื่อเวลาเกิดความร้อน ความชื้น หรืออุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะส่งผลให้เกิดการยืดหรือหดได้ ซึ่งไม้เนื้อแข็งมีหลายชนิดด้วยกัน ดังนี้

  6. ไม้เต็ง
    มีสีน้ำตาลอ่อนแต่ถ้าหากตัดทิ้งไว้นานสีของไม้ก็จะเข้มขึ้น เนื้อไม้ที่มีความแข็งจะทนต่อสภาพอากาศได้ดี และด้วยลักษณะผิวของเนื้อไม้หยาบและเลี้ยนลายไม้ไม่สวยงาม จึงนิยมใช้กับงานโครงสร้างภายนอกเป็นหลักที่ไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงามมาก อย่างเช่น เสา คาน วงกบ ประตู หน้าต่าง เป็นต้น

  7. ไม้ประดู่
    เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีกลิ่นหอม เนื้อไม้มีความละเอียด ไม่ยืดหดตัวแต่มีความแข็งแรงทนทานสูง มีลวดลายและเส้นเสี้ยนสลับเป็นริ้วสวยงาม อีกทั้งเนื้อไม้ประดู่มีหลายสี อย่างเช่น สีส้มอมเหลือง สีอิฐแก่ สีน้ำตาลแดง เป็นต้น ด้วยความสวยงาม จึงนิยมนำมาใช้งานเกี่ยวกับไม้พื้น เฟอร์นิเจอร์ วงกบประตูหน้าต่างนั่นเอง

  8. ไม้สักทอง/ไม้สักพม่า
    เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีลวดลายสวยงาม เนื้อแข็งสีน้ำตาลทอง ผิวไม้ละเอียด เป็นไม้ที่ไม่เกิดการบิดหรือการโก่ง จึงเป็นไม้ที่มีคุณภาพ

  9. ไม้แดง
    เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีสีน้ำตาลเข้มอมแดง ผิวลายและสีสันความสวยงาม ชัดเจน นอกจากนี้ยังเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงทนทาน จึงนิยมนำมาใช้ในส่วนประกอบของโครงสร้าง วงกบ บันได เชิงชาย ระแนง รั้ว และพื้นระเบียงภายนอก

  10. ไม้มะค่า
    เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีสีน้ำตาลเข้มอมส้ม เนื้อไม้มีความแข็งแรงมาก รวมถึงมีสีและลายที่ชัดเจนสวยงาม ไม้มะค่านั้นหายากและมีราคาแพง นิยมนำมาใช้ในส่วนของโครงสร้างที่ต้องการจะโชว์ผิวไม้ที่มีความสวยงาม ได้แก่ ไม้พื้น ไม้บันได เสา ราว ลูกกรง บัว เป็นต้น

  11. ไม้ตะแบก
    เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีสีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง จึงสามารถนำไปย้อมสีได้ตามความต้องการ รวมถึงลายไม้มีความสวยงามคล้ายลายไม้สัก เนื้อไม้สามารถที่จะไสหรือตกแต่งได้ ทำให้นิยมนำมาใช้สำหรับงานภายใน เช่น พื้นบ้าน บานประตู เป็นต้น

  12. ไม้ตะเคียน
    เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีสีเหลืองทอง แต่หากทิ้งไว้นานและถูกแสงแดดจะกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม ด้วยความเป็นไม้ที่มีความคงทนอย่างมากจึงสามารถนำไปต่อเรือได้ และนิยมใช้ทำวงกบ หรือพื้นไม้

ความแตกต่างของไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน นอกจากสีและลักษณะของไม้แล้วยังรวมไปถึงการนำไปใช้งาน ไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทานเหมาะแก่การนำไปเป็นส่วนประกอบหลักในการก่อสร้าง สำหรับไม้เนื้ออ่อนเหมาะแก่การนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ หรือเป็นส่วนที่ช่วยในการตกแต่งบ้าน ซึ่งหากใครที่มีแผนจะสร้างหรือซ่อมแซมบ้าน การเลือกใช้วัสดุไม้เป็นทางเลือกที่ดีอย่างยิ่ง ด้วยความสวยตามธรรมชาติ ให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่นสบายใจ ปรึกษา บริษัท สยาม วู๊ดอัพ ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไม้จริงทุกชนิด ได้แก่ ไม้แดง ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้เต็ง ไม้จำปา ไม้จ๊อย ไม้บันได ไม้โครง และไม้โอ๊คราคาพรีเมี่ยม นอกจากนี้ ยังมีไม้พื้น ปาร์เก้ ระแนง ไม้แปรรูป บันได ไม้โครงเฟอร์นิเจอร์ หรืองานไม้ตามแบบ ซึ่งมีให้คุณได้เลือกสรรอย่างหลากหลาย และคุณจะได้รับไม้ที่มีคุณภาพเหมาะสมตามการใช้งานอย่างแน่นอน


สนใจสินค้าติดต่อ
บริษัท สยาม วู๊ดอัพ จำกัด
69/291 หมู่ 6 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
Tel : 02-001-9254, 095-714-4641, 081-816-1541, 02 194 1171 (โรงงาน)
email  fb line